วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Part 7 ความรู้ในต่างแดน



สวัดีค่ะ วันนี้แอดมินขอนอกเรื่องนิดนึงแต่ก็ยังอยู่ในเรื่องของการเรียนรู้นะคะ
เอ๊ะ ? งงไหมเอ่ย เอาเป็นว่ามีประโยชน์แน่นอนค่ะ

ชื่อบล็อก คือ เที่ยวอย่างไรให้ได้ความรู้ ? รีวิวแหล่งความรู็ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
แต่วันนี้แอดมินอยากพาแอบออกนอกประเทศนิดนึง มันอดใจไม่ไหวนี่นา
อยากจะแชร์เรื่องราวที่แอดมินได้ไปสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่มาที่น่าตื่นเต้น


แท่น แทน แท๊นนนน แอดมินได้มีโอกาศไปประเทศเวียดนามมา
เลยคิดว่าเอ๊ะ ! บล็อกเราก็เกี่ยวกับความรู้นี่นา (แม้ Part นี้มันจะเกินขอบเขตออกนอกประเทศไปเลย)
แต่ก็คิดว่าเก็บไว้คงเสียดายเกร็ดความรู้ที่ได้มาแน่ๆ 

แอดมินได้ไปมา 3 เมืองด้วยกัน จะขอเล่ารวมๆ แล้วกันเนอะเดี๋ยวมันจะยืดเยื้อจนน่าเบื่อ


ที่แรกเลยก็คือ สวนดอกไม้แห่งเมืองดาลัด ซึ่งขออธิบายก่อนว่าเมืองดาลัดนั้นเป็นเมืองหนาว
ให้อารมณ์เหมือนฤดูหนาวบ้านเราทางภาคเหนือเลย 




เมื่อเข้ามาแล้วจะเห็นได้ว่าภายในสวนดอกไม้นั้น แอบมีเครื่งเล่นให้เล่นด้วย 
มีร้านขายน้ำหลายร้าน ไอศครีมก็มีนะคะ แต่นาทีนั้นแอดมินสั่นหงิกๆ คงกินไม่ไหวแน่ๆ





อันนี้เรียกว่าดอกหรือต้นอะไรแอดมินไม่แน่ใจแต่ที่รู้ๆ เห็นมีอยู่แทบทุกเมืองเลย
มีสีเหลืองอ่อน ฟ้าอ่อน ม่วงอ่อน ชมพูอ่อน (แนวๆ สีพาสเทลเลย)


ภายในสวนนั้นมีบันไดให้ลงหลายทางมาก ซึ่งแล้วแต่ความสะดวกของบุคคลเน้าะ
เพราะแอดมินไม่ได้ลงไปสุดเลย มีเวลาจำกัดเลยสำรวจไม่ทั่วเลย





ถึงจะหนาวแต่ก็มีกระบองเพชรด้วยนะ เหมือนจะดูไม่ชุ่มชื้นใช่ไหม ? แต่ไม่คะ
อุดมสมบูรณ์มาก 


มองไปทางไหนก็มีแต่ดอกไม้ สวยๆ ทั้งนั้นเหมือนภาคเหนือบ้านเราไหม อิอิ




ก่อนกลับแอดมินมีภาพน่ารักๆ มาฝากมีเด็กๆ มาทัศนศึกษา เดินร้องเพลงประจำของกลุ่ม
จับมือกันเป็นคู่ๆ ด้วย เดินผ่านก็บ๊ายบายให้แอดมินกับเพื่อนกันทุกคนเลย 



หลังจากเที่ยวสวนดอกไม้เสร็จแล้ว แอดมินก็ไปแวะทานข้าวที่ร้านอาหาร น่ากินไหมเอ่ย?
แต่รสชาติอาหารบ้านเขาจะตรงกันข้ามกับบ้านเราเลย เพราะ เขากินจืดเรียกได้ว่าสุขภาพคงดีสุดๆ
แต่สำหรับคนกินรสจัดอย่างแอดมินแล้ว ต้องพึ่งพริก น้ำปลาตลอดเลย
แต่พริกน้ำปลาที่ว่าเนี่ยไม่เหมือนบ้านเรานะคะ เสียดายไม่มีรูป คล้ายๆ เกลือ+พริกแบบน้ำส้มสายชูบ้านเรา 


เสร็จแล้วแอดมินก็ได้วัดหนึ่ง ขาไปแอดมินได้ขึ้นกระเช้า วัดแห่งเมืองหนาว ^O^




บรรยากาศภายในวัดนั้นร่มรื่นมากแถมยังอยู่ในเมืองหนาวอีกนี่นา
มีป้ายกำกับ คำเตือนอยู่อย่างชัดเจน วันที่แอดมินไปคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่


ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่รถจักรยานยนต์เยอะมากกกกกกกกก
ที่ว่าเยอะ เยอะแค่ไหน ? เหมือน 80 เปอร์เซ็นของประเทศเลยก็ว่าได้ แต่ต่างกับบ้านเรา
อย่างเห็นได้ชัดคือ เวลาข้ามถนนเดินไปเลยแต่ช้าๆ รถจะหลบเราเอง
ซึ่งสำหรับแอดมินมันยากมาก ก็คนมันกลัวนี่เน้าะ 55555


ภาพบรรยากาศตอนถ่ายอาหารบนเรือ ซึ่งภาพที่เห็นไม่ใช่เรือที่แอดมินทานอาหารเย็น
แต่ดันไม่มีภาพบรรยากาศในเรือของแอดมินซะงั้น มัวแต่ทานกับชมบรรยากาศจนเพลิน


ปล. เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ควรข้ามเนื้อหาตรงนี้ไป ที่แอดมินทึ่งคือ เบียร์เวียดนามคิดเป็นเงินไทย
เพียงแค่ 16 บาทเท่านั้น อึ้งไหมละ ? แค่ลองชิมเฉยๆ นะคะ ไม่ได้มีเจตนาจะแนะนำ
แต่พอดีมีภาพและอยากแชร์ว่าเห้ยมันถูกมากค่ะเพื่อนๆ 


จริงๆ แล้วแอดมินไป 4 วัน 3 คืน แต่กลัวว่าจะยาวยืดจนน่าเบื่อเลยย่อมาให้เพียงเท่านี้
แต่สิ่งที่แอดมินอยากจะบอกวันนี้ คือ Part นี้ไม่ใช่การรีวิวแต่เพียงแค่แชร์ประสบการณ์



สิ่งที่แอดมินได้กลับมาจากประเทศเวียดนามครั้งนี้ นั่นก็คือ แอดมินได้เรียนรู้วัฒนธรรมหลายๆ 
อย่างของบ้านเขา ทั้งในเรื่องของอาหารการกิน ความเป็นอยู่ และอื่นๆ อีกมากมาย
ที่ปกติเราอาจจะเห็นหรือรู้ได้จากการอ่านตามสื่อต่างๆ แต่แอดมินอยากบอกว่าถ้าได้ไปสัมผัสเอง
จะได้ความรู้กลับมาเยอะแยะเลยค่ะ คนประเทศเขาน่ารัก ยิ้มเก่ง 
แต่ก่อนกลับแอดมินแอบโดนแท็กซี่พาอ้อมจนมิตเตอร์แพงกว่าขาไปครึ่งต่อครึ่งเลย TT 

สุดท้ายแล้ว Part นี้อาจไม่มีอะไรมากแต่ถ้าได้สัมผัสรับรองได้ความรู้เต็มๆ
ส่วนครั้งหน้าแอดมินจะมาพูดถึงเรื่องอะไรหรือรีวิวสถานที่ใดอย่าลืมติดตามนะคะ

วันนี้แอดมินขอตัวก่อนเด้อ ไว้พบกันใหม่ค่ะ ^^





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น