วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Part 2 พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์


พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์


วันนี้แอดมินจะพาทุกคนเข้าสู่โลกของวิทยาศตร์กันบ้าง อย่าเพิ่งคิดว่ามันน่าเบื่อแล้วกดออกไปนะคะ ลองมาดูกันก่อนว่าทำไมแอดมินถึงต้องไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศตร์ด้วยล่ะ...




พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์มีเอกลักษณ์โดดเด่นของตัวอาคารที่มีรูปทรงเป็นลูกบาศก์ขนาดใหญ่ 3 ลูกถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้คนไทยสนใจและเห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ที่สามารถเป็นตัวพัฒนาประเทศได้อย่างดี 
*เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ปิดทำการวันจันทร์*
วันอังคาร-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.30-16.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.30-17.00 น.


นี่คือทางเดินไปตึกพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นะคะ วันที่แอดมินไปโชคดีหน่อยอากาศกำลังดี แล้วเราจะรออะไรล่ะคะรีบเข้าไปดูกันดีกว่าว่าข้างในมีอะไรบ้าง


พอเดินเข้ามาแล้วทางขวามือของเราจะเป็นจุดจำหน่ายบัตรในการเข้าชมนะคะ
ผู้ใหญ่ 50 บ. 
นักเรียน/นักศึกษาปริญญาตรี (อายุไม่เกิน 24 ปี โปรดแสดงบัตร) ผู้สูงอายุ (60ปีขึ้นไป) เข้าชมฟรีจ้า



เมื่อเข้ามาภายในอาคารแล้วทางขวามือจะมีเคาท์เตอร์สำหรับติดต่อสอบถาม เวลาเราอยากรู้อะไรมา
สอบถามได้ที่เคาท์เตอร์นี้เลยค่ะ
ภายในอาคารจะประกอบด้วย 6 ชั้นด้วยกันซึ่งแต่ละชั้นจะแตกต่างกันออกไปเราจะมาเริ่มกันทีละชั้นนะคะ

ชั้นที่ 1 เป็นส่วนของการต้อนรับและแนะนำการเข้าชม








ซึ่งส่วนใหญ่ชั้นที่ 1 จะเป็นประวัติของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ แนะนำนักวิทยาศาสตร์รุ่นบุกเบิกต่างๆ และ มีแบบจำลองอาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ แสดงหัวข้อของนิทรรศการแต่ละชั้นและป้ายให้คำแนะนำแก่ผู้เข้าชม

ชั้นที่ 2 ประวัติและความเป็นมาของเทคโนโลยี






ในส่วนของชั้นที่ 2 นั้นจะอธิบายเกี่ยวกับประวัติและความเป็นมาของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามลำดับ พบกับข้อสันนิฐานต่างๆ ได้มากมาย รวมถึงพลังของมนุษย์อย่างเราๆ ที่มีต่อธรรมชาตินั่นเอง ซึ่งในชั้นนี้จะไม่ค่อยมีอะไรมากแต่เป็นเกร็ดความรู้ของการเริ่มต้นวิทยาศาสตร์เลยนะคะ

ชั้นที่ 3 วิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานและพลังงาน







ในส่วนของชั้นที่ 3 จะมีสิ่งของทดลองที่ให้เราสามารถลองทำได้เลยค่ะ เหมือนการเรียนรู้ด้วยตัวเองจากชิ้นงานต่างๆ โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับคณิตศาสตร์อยู่ด้วย ในแต่ละชิ้นงานที่ให้เราทดลองนั้นจะมีคำอธิบายประกอบให้ข้อมููลในทางปฏิบัติและการประยุกต์ใช้อย่างที่เราอาจจะไม่เคยรู้เลยค่ะ

ชั้นที่ 4 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศไทย



เห็นน้องคนนึงกำลังตั้งใจกับชิ้นงานทดลองชิ้นนี้ แม้บางทีเราอาจจะไม่เข้าใจในการทำงานของมันแต่เพียงแค่เราลองสนใจมันสักนิดก็ถือว่าเกิดการเรียนรู้แล้ว 
แอดมินเลยต้องแช๊ะภาพแบบนี้เก็บไว้ดูซะหน่อยเห็นแล้วดูน่ารักแอบยิ้มตามกันเลยทีเดียว








ในส่วนของชั้นที่ 4 จะเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย ทั้งที่ตั้งทาง
ภูมิทัศน์ ภูมิศาสตร์ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ด้านการทำเกษตรกรรม และยังเกี่ยวข้องกับภูมิอากาศ และสิ่งต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อภูมิอากาศของโลกอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากๆ เลย

ชั้นที่ 5 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน









ในส่วนของชั้นที่ 5 จะเป็นข้อมูลของวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราและการดูแลรักษาสุขภาพ ยังมีระบบอัตโนมัติและวิทยากรหุ่นยนต์ที่คอยให้ข้อมูลอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการใช้เทคโนโลยีที่
ก่อให้เกิดคุณประโยชน์มาก สะท้อนสภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวัน ทำให้เราเห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เรามีสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตในประจำวันที่ง่ายขึ้น


ชั้นที่ 6 เทคโนโลยีภูมิปัญญาไทย

























ในส่วนของชั้นที่ 6 จะเป็นการนำเสนอวิถีชีวิตของคนไทยที่ใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาพื้นบ้านที่
ผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งจะเห็นได้จากภาพที่แอดมินได้นำมาฝากทุกๆ คน ว่าการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่างๆ มาใช้รวมกับภูมิปัญญาของชาวบ้านก็จะเกิดผลลัพธ์ที่ไม่น่าเชื่อ จนท้ายที่สุดก็กลายเป็นสินค้าโอทอป ที่สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนไทยแทบทุกภาคส่วนของประเทศ

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดแอดมินอยากจะบอกว่า...






ใครที่สนใจของฝากจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งนี้ที่ชั้น 1 ของอาคารก่อนถึงทางออกจากนอกอาคารจะมีร้านต่างๆ มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกใจเหล่าหนูๆ มาก ใครสนใจสามารถแวะซื้อก่อนกลับได้จ้า

.และแล้วจากที่แอดมินได้เที่ยวแบบเต็มที่แล้วก็ทำให้แอดมินได้รู้อะไรที่ไม่เคยรู้และจากที่ไม่เคยคิดว่าวิทยาศาสตร์น่าสนใจเพราะมันคงเป็นเรื่องไกลตัวเราอยู่แล้ว แต่แอดมินเพิ่งรู้ว่าแอดมินคิดผิดมาตลอด
เพราะจริงๆ แล้ววิทยาศาสตร์มันอยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคนก็ว่าได้


ต่อไปจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบไหนกันนะ รอติดตามชมได้เลยค่ะ ^^

แผนที่การเดินทางมาพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์


ถนนวิภาวดี - รังสิต ขาเข้าจากสระบุรี เข้าได้ 2 ทางคือ
        1. เส้นทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลี้ยวซ้ายผ่านวัดธรรมกาย อ. คลองหลวง - หนองเสือ ถึงทางแยก แยกซ้ายไปหนองเสือ ให้เลี้ยวขวาไปพิพิธภัณฑ์ฯ ระยะทาง 2 กม. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อยู่ซ้ายมือ 

        2. เส้นทางฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เลี้ยวซ้ายถนนรังสิต - นครนายก เส้นทางเดียวกันกับดรีมเวิลด์ โดยดรีมเวิลด์จะอยู่ระหว่างคลอง 3 กับ คลอง 4 ตรงไปเรื่อยๆ สังเกตถนนวงแหวนตะวันออกคร่อมอยู่ ตรงไปอีก 200 เมตร เจอสะพานคลอง 5 ลงสะพานชิดซ้าย เลี้ยวซ้ายเข้าซอยอีก 4 กม. เลี้ยวขวาเข้าเทคโนธานี (ถึงวงเวียนเลี้ยวซ้ายเข้าพิพิธภัณฑ์ฯ) 
ถนนวิภาวดี - รังสิต ขาออกจากกรุงเทพ ตรงมาจากดอนเมือง
       ตรงมาจากดอนเมือง ป้ายบอกทางพิพิธภัณฑ์ ฯ อยู่ซ้ายมือ สังเกตจะมี 2 สะพาน คือขวามือไปสระบุรี นครสวรรค์ ให้ใช้สะพานซ้ายมือ ปทุมธานี นครนายก ใช้เส้นทางรังสิต - นครนายก ตรงไป 15 กม. เส้นเดียวกับดรีมเวิลด์ ถึงสะพานคลอง 5 ลงจากสะพานเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอีก 4 กม. เลี้ยวขวาเข้าเทคโนธานี (ถึงวงเวียนเลี้ยวซ้ายเข้าพิพิธภัณฑ์ฯ)

อ้างอิง : http://www.nsm.or.th/index.php?option=com_content&view=featured&Itemid=101

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น